fbpx

Patcharavej Clinic

สิว - Acne vulgaris

คุณมีความกังวลเรื่องสิวอยู่ใช่ไหม ?

สิว - มาทำความรู้จักกัน

    สิว เป็นโรคเรื้อรังของผิวหนังซึ่งพบได้บ่อย มักเกิดบริเวณผิวที่มีต่อมไขมันอยู่หนาแน่น เช่น ใบหน้า หน้าอก และหลัง ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังสร้างไขมันออกมามากร่วมกับการอุดตันบริเวณรูขุมขนกลายเป็นสิวอุดตัน และเกิดการอักเสบตามมาหากมีสิ่งกระตุ้น

    หลายคนเชื่อว่าการเกิดสิวในช่วงเข้าสู่วัยรุ่นเป็นเรื่องปกติ และจะสามารถหายได้เองเมื่อเราอายุมากขึ้น แต่ในบางรายอาจเป็นสิวหลังจากเลยช่วงวัยรุ่นไปแล้วหรือแม้แต่ในทารกแรกเกิดก็ยังเกิดได้ เพราะมีปัจจัยหลายๆอย่างร่วมกันที่ก่อให้เกิดสิว ดังนั้นสิวจึงสามารถเกิดได้กับคนทุกช่วงวัย

สิวแบบไหนบ้าง ?

สิวแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ 

1. สิวไม่อักเสบ หรือ สิวอุดตัน (Comedone)  เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามลักษณะ
      1.1 สิวหัวปิด/สิวหัวขาว
      1.2 สิวหัวเปิด/สิวหัวดำ

ทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถพัฒนาไปเป็นสิวประเภทถัดไปได้คือ

2. สิวอักเสบ คือ สิวอุดตันที่เกิดการอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย มักจะเป็นตุ่มแดงอักเสบ หนองหรือไตแข็งใต้ผิวหนัง บางกรณีเป็นรุนแรงมากทำให้เกิดแผลเป็น และในส่วนน้อยมากๆ อาจเป็นรุนแรงถึงขั้นมีไข้ อ่อนเพลีย ร่วมด้วยได้

สาเหตุของการเกิดสิว

สิวเกิดได้จากหลายปัจจัยรวมกันและยังไม่มีสาเหตุที่แน่นอน โดยหลักส่วนใหญ่มักเกิดจาก

  • แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
  • พันธุกรรม
  • ฮอร์โมน
  • การอักเสบจากการถูกกระตุ้น
  • การอุดตันของรูขุมขน
  • ยาสเตียรอยด์ ยาฮอร์โมน
  • การใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  • สภาพแวดล้อม อากาศ ความชื้น
  • อาหาร เช่น นม และอาหารที่มีน้ำตาลสูง

การดูแลตัวเองเบื้องต้น

  1. เลือกใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางที่เหมาะสม
    เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว เช่น การเลือกดูผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-Comedogenic)  เครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน (Oil-free) เป็นต้น สิ่งสำคัญคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยนและเนื้อเบา เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันรูขุมขนให้มากที่สุด 
  2. การดูแลสุขภาพ เลือกทานอาหาร
    บางคนอาจถูกกระตุ้นจากนมพร่องมันเนย เช่น skim milk ควรหลีกเลี่ยงหากนมกระตุ้นให้เป็นสิว เลี่ยงอาหารหวาน น้ำตาลสูง และออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนเพียงพอ
  3. รักษาความสะอาด
    ล้างหน้าไม่ควรเกินวันละ 2 – 3 ครั้ง ไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินเพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ และกระตุ้นให้สิวแย่ลง
  4. งดการแคะแกะเกาหน้า หรือการสครับหน้า 
  5. หากเป็นสิวรุนแรงหรือต่อเนื่องนานเกิน 1 สัปดาห์ ควรรีบมาปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา ป้องกันการเกิดแผลเป็นที่จะเกิดตามมา

การรักษาเมื่อเกิดสิว

     การรักษาสิวนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว อาจเริ่มตั้งแต่การใช้ยาทา การทำหัตถการต่างๆ เช่น การกด/ฉีดสิว การรับประทานยา รวมถึงการฉายแสงหรือเลเซอร์เพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ เป็นต้น

      โดยแพทย์ต้องวางแผนการรักษาเป็นรายบุคคล เนื่องจากต้องทำความเข้าใจสาเหตุและปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวกับคนไข้ เพื่อการรักษาอย่างตรงจุด และติดตามผลรักษา การปฏิบัติตัวของคนไข้ระหว่างการรักษาด้วย เพราะสิวแต่ละประเภทนั้นอาจต้องใช้เวลารักษาหลายเดือนจนกว่าจะเห็นผลที่ดี สิ่งสำคัญคือ เมื่อเกิดสิวแล้ว ควรดูแลผิวอย่างถูกต้องให้เหมาะแก่สภาพผิวของแต่ละบุคคล หากขาดการดูแลที่ดีอาจสร้างรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวตามมาภายหลัง ซึ่งจะทำให้การรักษานั้นใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ