fbpx

Patcharavej Clinic

เสียความมั่นใจเพราะรอยแผลเป็นสิวหรือหลุมสิว

         แผลเป็นสิวหรือหลุมสิว มักเกิดขึ้นหลังจากที่สิวอุดตันหรือสิวอักเสบหายแล้ว สามารถเป็นได้ทั้งรอยดำ รอยแดง หรือหลุมสิว ซึ่งในช่วงที่เป็นสิวนั้นหากเกิดสิวอักเสบขนาดใหญ่ เช่น สิวหัวช้าง ก็จะยิ่งมีส่วนทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่รักษาได้ยากขึ้นเช่นกัน โดยวิธีการรักษาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของรอยแผลนั้นๆ

การรักษารอยแผลจากสิว

  • ยาทา (ได้ผลกับรอยดำสิว)
  • การลอกผิวชั้นบนด้วยกรดผลไม้เข้มข้น (chemical peeling)
  • การฉีดฟิลเลอร์ (filler) บริเวณหลุมสิว  
  • การฉีด PRP (Platelet-rich plasma) หรือ น้ำเกร็ดเลือดเข้มข้น
  • การใช้เข็มตัดพังผืดใต้หลุมสิว (Subcision)
  • การแต้มกรดด้วยวิธี TCA Cross บริเวณหลุมสิว 
  • การใช้เทคโนโลยี Energy-based device
    + เลเซอร์ต่างๆ (Laser) เช่น CO2 laser, Er YAG laser, Fractional Picosecond laser (PicoSure) เป็นต้น
    + คลื่นความถี่วิทยุ Fractional Radio Frequency (RF) เช่น เครื่อง Venus Viva MD, Sylfirm X Plus เป็นต้น
  • การผ่าตัดหลุมสิว เช่น Puch excision, punch elevation เป็นต้น

      วิธีการรักษารอยแผลเป็นนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะรอยแผลของคนไข้ บางวิธีอาจจะไม่เหมาะกับสภาพผิวและส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดกับคนไข้แต่ละท่านอาจะต้องใช้การรักษาหลายๆวิธีร่วมกัน แนะนำควรให้แพทย์เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นผู้ประเมินสภาพผิวให้โดยละเอียดเพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป