fbpx

Patcharavej Clinic

คู่มือ คุณแม่มือใหม่ วัคซีนที่คนท้อง “ห้ามฉีดเด็ดขาด!!”

วัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรฉีด ได้แก่

      • วัคซีนป้องกันโรคสุกใส (Varicella) 

      • วัคซีนงูสวัด (Zoster)

      • วัคซีนคางทูม หัด หัดเยอรมัน (Measles, mumps, rubella)

              เนื่องจาก เป็นวัคซีนเชื้อเป็น อาจทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อและเกิดความพิการที่อวัยวะต่าง เช่นหู ตา หัวใจ แขน ขาและสมอง ดังนั้น หากต้องการวางแผนที่จะมีบุตรก็ควรฉีดวัคซีนตัวนี้ก่อนตั้งครรภ์ โดยหากต้องการฉีดวัคซีนหัดเยอรมัน (Rubella vaccine) นั้น แนะนำให้ฉีดก่อนตั้งครรภ์มากกว่า 1 เดือนหรือฉีดหลังคลอดทันที 1 เข็ม และฉีดเข็มที่สองห่างจากเข็มแรกหนึ่งเดือน เป็นต้น

    แล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ “ควรได้รับวัคซีนไหนบ้าง?”

              ในช่วงภาวะตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดที่คุณแม่ทุกคน ต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ใช่เพียงต้องให้ความสำคัญในการดูแลคุณแม่ แต่ยังต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของทารกในครรภ์อีกด้วย “วัคซีน” จึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆในการช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันอันตรายจากการติดเชื้อจากคุณแม่สู่ลูกน้อยในครรภ์ 

              ปัจจุบัน มีเชื้อโรคหลากหลายชนิดมากมาย ที่ทารกสามารถติดเชื้อได้ ตั้งแต่ช่วง 2-6 เดือนแรก คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรได้รับวัคซีนที่ดีที่สุด เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อย โดยปกติคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทุกคน ควรได้รับวัคซีนตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ แต่มีบางคนที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนตั้งครรภ์ จึงเกิด”ความเสี่ยงที่จะติดโรค”ได้ เพราะฉะนั้น มาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยคนสำคัญกันนะคะ

    3 วัคซีนที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

     

     

    1. วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (TdaP,Tdap) 

    • วัคซีนบาดทะยัก องค์การอนามัยโลกได้จัดให้เป็นวัคซีนที่คุณแม่ควรฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อบาดทะยักในทารกแรกเกิด การฉีดวัคซีนบาดทะยักเป็นวัคซีนตัวตายประกอบไปด้วยทอกซอยด์บาดทะยัก ช่วยป้องกันโรคบาดทะยักในแม่ และทารกที่เกิดมาด้วย ในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์

    • วัคซีนคอตีบ เป็นวัคซีนตัวตายประกอบไปด้วยทอกซอยด์คอตีบ เนื่องจากวัคซีนไม่มีอันตราย จึงแนะนำให้ฉีดในคุณแม่ตั้งครรภ์ ป้องกันโรคคอตีบในแม่และป้องกันคอตีบในลูกที่คลอดมา 

    • วัคซีนไอกรน โรคไอกรนเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หากเป็นมากจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวถึงแก่ชีวิตได้ วัคซีนไอกรนเป็นวัคซีนตัวตายสามารถฉีดในคนท้องได้ ช่วยป้องกันโรคไอกรนในแม่และลูกที่คลอดมา ในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์

    คำแนะนำ สำหรับวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ และไอกรน (Tdap) ตอนตั้งครรภ์

        • แนะนำให้วัคซีน Tdap สำหรับหญิงตั้งครรภ์ทุกคนในแต่ละครรภ์ โดยให้ในช่วง 27 – 36 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์

        • หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรได้รับการแนะนำว่า วัคซีน Tdap ปลอดภัย ใช้ได้ระหว่างตั้งครรภ์ และมีความสำคัญมากในการป้องกันการติดเชื้อไอกรนในระหว่างคลอด

        • ควรมีการแนะนำให้มีการเตรียม Tdap ในสถานพยาบาลที่มีการฝากครรภ์

        • สำหรับครอบครัว หรือผู้ใกล้ชิด ควรได้รับการฉีดวัคซีน Tdap หากคนกลุ่มนี้ยังไม่เคยได้รับมาก่อน ในทางทฤษฎีแนะนำให้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนจะมาอยู่ใกล้ชิดกับทารก

        • ควรให้วัคซีน Tdap ทันทีหลังคลอด หากหญิงตั้งครรภ์ไม่เคยได้รับวัคซีน Tdap มาก่อน ตอนวัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือในครรภ์ก่อนก็ตาม

        • นอกเหนือจากการให้วัคซีนในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ ในบางสถานการณ์สามารถให้วัคซีนได้อีก เช่น รายที่มีแผลใหม่,ช่วงที่มีการระบาดของไอกรน หรือบางภาวะที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนนี้

       

      2. วัคซีนไข้หวัดใหญ่

                ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ทำอันตรายให้กับคนท้องมากกว่าคนธรรมดา ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย เป็นที่มาให้แม่และทารกในครรภ์เสียชีวิตได้ ฉีดวัคซีน 1 เข็ม สามารถช่วยป้องกันได้ 1 ปี  โดยเริ่มฉีดตั้งแต่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์

             คำแนะนำ สำหรับฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตอนตั้งครรภ์

          • อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป ควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จำนวน 1 ครั้ง มีความปลอดภัยเพราะเกิดจากเชื้อที่ตายแล้ว  (Killed Vaccine) ไม่อันตรายต่อคุณแม่และบุตร โดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพถึง 50-90 % แต่ต้องขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของวัคซีนและเชื้อที่มีการแพร่ระบาดอยู่ในขณะนั้น นอกจากจะเป็นการป้องกันเชื้อไวรัสนี้แล้ว ยังสามารถส่งภูมิคุ้มกันไปยังทารกอีกด้วย จนกระทั่งคลอดออกมาถึงอายุ 6 เดือน

          • ในส่วนของ 3 เดือนแรกที่ตั้งครรภ์บางรายอาจจะยังทราบว่าตนเองท้อง และมีความเสี่ยงสูงที่เกิดการแท้งหรือตกเลือด หากฉีดวัคซีนในช่วงนี้ภูมิคุ้มกันจากแม่สู่ลูกจะไม่เท่าในช่วงไตรมาสที่ 2- 3 ของการตั้งครรภ์

         

        3. วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี

                  เป็นอีกหนึ่งวัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฉีด โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีความเสี่ยง เช่น มีคนในครอบครัวเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนนี้เป็นวัคซีนตัวตายซึ่งไม่มีอันตรายต่อแม่หรือลูก

        คำแนะนำ สำหรับฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ตอนตั้งครรภ์

                  การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ควรฉีดตั้งแต่ในวัยเด็กแรกเกิด ในเด็กโตและในผู้ใหญ่ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่เพราะส่วนใหญ่อาจจะมีภูมิต้านทานการติดเชื้ออยู่แล้ว ซึ่งสามารถทราบได้จากการตรวจเลือดว่าควรหรือไม่ควรรับวัคซีน โดยการฉีดวัคซีนเพียง 3 เข็ม (0,1,6 เดือน) สามารถสร้างภูมิต้านทานในการป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต

         

        “เมื่อคุณแม่รู้ว่าตั้งครรภ์ควรเข้ารับการ ฝากครรภ์ ทันที เพื่อสูติ-นรี แพทย์จะแนะนำวัคซีนให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันและแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เด็กน้อยในครรภ์เจริญเติบโตและมีการพัฒนาการที่แข็งแรงสมบูรณ์ และปลอดภัยสำหรับตัวคุณแม่และลูกในครรภ์อีกด้วย”